คำชะโนด
ความเป็นมาของ “คำชะโนด”
ความเป็นมา คำชะโนด สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง จังหวัดอุดรธานี
คำชะโนด วัดศิริสุทโธ หรือป่าคำชะโนด เป็นสถานที่ท่องเที่ยวไทย ตั้งอยู่ภายในพื้นที่ วัดศิริสุทโธคำชะโนด ตำบลวังทอง อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี คำชะโนด สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง จังหวัดอุดรธานี คำชะโนดเป็นป่าที่มีเรื่องลี้ลับมากมาย คำชะโนด ป่าลึกลับ ที่มีหลายๆ คนพูดถึง ก็จะนึกถึงความลี้ลับที่เกี่ยวกับพญานาค เเละความเชื่อที่ว่าคำชะโนดมีพญานาคคอยปกปักรักษาเเละเกาะคำชะโนดไม่เคยจมน้ำ และเรื่องราวที่ทำให้เรารู้จักคำชะโนดมาขึ้นนั่นในปี 2532
ก็คือ ตำนานผีจ้างหนัง จนกระทั่งมีคนนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านทั้งในจังหวัดอุดรธานีและใกล้เคียงให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก ด้วยเป็นวัดที่ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นที่อยู่ของพญานาคและเป็นทางเชื่อมต่อเมืองบาดาล ปกครองรักษาโดยพญานาคราชปู่ศรีสุทโธและองค์แม่ศรีปทุมมานาคราชเทวี ทดลองเล่น สล็อต ฟรี PG SLOT

ปกคลุมด้วยผืนป่าคำชะโนดขนาดใหญ่อยู่ทั่วบริเวณ แต่ละต้นล้วนมีอายุยาวนาน ซึ่งในประเทศไทยมีต้นคำชะโนด แบบนี้เพียงที่เดียวเท่านั้น คำชะโนด คือ รอยต่อระหว่างภพมนุษย์กับภพบาดาล เพราะตรงนั้นเป็นโพรงน้ำต่อไปถึงลำน้ำโขง ที่พญานาคเขาขุด หรือทำเอาไว้เพื่อเชื่อมต่อภพมนุษย์ เป็นไปตามที่เขาร่ำลือกัน นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของจ.อุดรธานี ยังมีผู้คนที่มาเที่ยวมากมายไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือชาวต่างชาติ ซึ่งให้ความสนใจเกี่ยวกับตำนานความลี้ลับ เราไปรู้จักตำนานของคำชะโนดหรือป่าคำชะโนดกันเถอะ!! Joker gaming

ตำนานความลี้ลับของ คำชะโนด
ตำนานของ คำชะโนด สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง จังหวัดอุดรธานี
ตำนานของป่าคำชะโนด ในตำนานของอุรังคธาตุ ได้กล่าวถึงพญานาคในตอนหนึ่งว่า มีพญานาคสองตน ชื่อ พระยาสุวรรณนาค และ พระยาสุทโธนาค ได้ครอบครอง หนองแส อยู่คนละส่วน วันหนึ่ง พญานาคทั้งสอง เกิดขัดข้องหมองใจกัน เรื่องแบ่งปันอาหาร จึงก่อสงครามต่อสู้กัน ทั้งสองฝ่ายต่างสู้รบกันอยู่นานถึง 7 ปี 7 เดือน 7 วัน เป็นเหตุให้เดือนร้อนไปทั้งสามภพ ทั้งภพบาดาล ภพมนุษย์ และภพสวรรค์
การสู้รบของพญานาคทั้งสอง บังเกิดความร้อนถึงพระอินทร์ พระอินทร์จึงได้เสด็จมายังหนองแส แล้วเข้าห้ามปรามมิให้รบพุ่งกัน จากนั้น พระอินทร์จึงตั้งกติกา ให้พญานาคทั้งสองแข่งขันกัน ขุดแม่น้ำโขง และแม่น้ำน่าน ใครขุดถึงทะเลก่อนกัน พระอินทร์จะมอบปลาบึกให้เป็นรางวัล ในที่สุดก็ปรากฏว่า พระยาสุทโธนาค เป็นฝ่ายชนะ จึงเป็นผู้ได้ปลาบึกมาไว้ยังแม่น้ำโขงแต่เพียงผู้เดียว ดังนั้น ปลาบึก จึงปรากฏมีเพียงในแม่น้ำโขงเพียงแห่งเดียวเท่านั้นในโลก
นอกจากนี้ พระยาสุทโธนาค ยังได้ร้องขอเอาปากปล่องประตูทางขึ้นลง ต่อพระอินทร์ เพื่อติดต่อกับเมืองมนุษย์ และสวรรค์ไว้สามแห่ง
ปากปล่องพญานาคแห่งที่หนึ่ง อยู่ที่บริเวณ “พระธาตุหลวง” ใจกลางกำแพงนครเวียงจันทร์ ประเทศลาว บางตำนานเล่าว่า บริเวณใต้ฐานพระธาตุหลวง จะมีลักษณะเป็นปากปล่อง มีโพรงลึก เป็นอุโมงค์ขนาดใหญ่ลงไปใต้ดิน ซึ่งต่อมา ได้สร้างพระธาตุครอบไว้
ปากปล่องพญานาคแห่งที่สอง อยู่บริเวณ “ดอนจันทร์” ของประเทศลาว ดอนจันทร์ เป็นเกาะขนาดใหญ่กลางแม่น้ำโขง ตรงข้ามกับอำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย ผู้คนลุ่มน้ำโขงแถบนี้เชื่อว่า บริเวณหาดดอนจันทร์ มีประตูพญานาค ที่พระยาสุทโธนาค ร้องขอไว้อีกแห่งหนึ่ง Super slot
ปากปล่องพญานาคแห่งที่สาม อยู่ที่ “เมืองคำชะโนด” ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของอำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี “คำชะโนด” มีลักษณะเป็นเกาะขนาดใหญ่โผล่ขึ้นกลางน้ำ ทั่วอาณาบริเวณคำชะโนด มีต้นไม้ลักษณะประหลาดชนิดหนึ่ง เกิดขึ้นเต็มบริเวณ ต้นไม้ชนิดนี้มีชื่อเรียกว่า “ต้นชะโนด” จากหลักฐานข้อมูล ลักษณะของต้นไม้ชนิดนี้ ได้รับการยืนยันว่า มีอยู่เฉพาะที่นี่แห่งเดียวเท่านั้นในโลก ต้นชะโนด มีลักษณะคล้ายกับต้นมะพร้าว ต้นหมาก และต้นตาลผสมกัน แต่มีขนาดเล็กกว่าต้นตาล ลำต้นเท่ากับต้นมะพร้าว มีกาบห่อหุ้ม ตามกาบรอบต้นจะมีหนามยาวแหลมคมน่าเกรงขาม เมื่อยามต้นชะโนดต้องลม จะมีเสียง วืดๆ หวือๆ ฟังแล้วน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก บริเวณด้านในของเกาะคำชะโนด มีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ หรือ ปล่องพญานาค ปรากฏอยู่ในนั้น
วังนาคินทร์ คำชะโนดแห่งนี้ ปรากฏตำนานลี้ลับ และเรื่องราวมหัศจรรย์มากมายให้กล่าวขาน ตามตำนานเล่าว่า พระอินทร์ให้ พระยาสุทโธนาค มาตั้งบ้านเรือนอยู่ถิ่นนี้ ซึ่งมีต้นชะโนดขึ้น และพระอินทร์ได้กำหนดไว้ว่า ในหนึ่งเดือน เมื่อถึงข้างขึ้น 15 วัน ให้พระยาสุทโธนาค กลายร่างเป็นมนุษย์ พระยาสุทโธนาค เมื่อกลายร่างเป็นมนุษย์ มีชื่อเรียกว่า “เจ้าพ่อพระยาศรีสุทโธ” มีวังนาคินทร์ เป็นถิ่นพำนัก ส่วนอีก 15 วันในข้างแรม พระอินทร์กำหนดให้ พระยาสุทโธนาค และบริวาร กลายร่างเป็นนาค เมื่อพระยาสุทโธนาค กลายร่างเป็นนาค มีชื่อเรียกว่า “พระยานาคราชศรีสุทโธ” และให้อาศัยอยู่ในเมืองบาดาล
ชาวบ้านที่ทำมาหากินอยู่ในละแวกนั้น มักจะพบเห็นสิ่งมหัศจรรย์ในมิติลี้ลับอยู่เสมอ เช่น เห็นชาวเมืองชะโนด ไปเที่ยวงานบุญบ้าง เห็นผู้หญิงไปยืมเครื่องมือทอผ้าจากชาวบ้านบ้าง หรือบางครั้งชาวเมืองชะโนดจัดงานบุญประจำปี และว่าจ้างเอาภาพยนตร์เข้าไปฉายที่กลางเมืองชะโนด ก็เคยมี เป็นที่กล่าวขานกัน จนหน่วยฉายหนังเร่เมืองอุดร หวาดผวาไปตามๆ กัน หรือแม้เวลาที่เกิดน้ำท่วมใหญ่บริเวณรอบๆ ตัวเกาะ เมืองชะโนดก็ยกตัวลอยขึ้นทั้งเกาะ น้ำจึงท่วมไม่ถึงตัวเกาะคำชะโนด ครั้งเมื่อเวลาน้ำลด ตัวเกาะก็จะลดลงเหมือนเดิม เป็นที่อัศจรรย์ยิ่ง
ตำนานผีจ้างหนัง

ตำนานผีจ้างหนัง เป็นตำนานเล่าขาลกันมาว่า เรื่องผีไปจ้างหนังมาฉาย ซึ่งก็คือนาค แปลงกายเป็นมนุษย์ ไปว่าจ้างหนังกลางแปลงให้ไปฉายที่ คำชะโนด และอีกเรื่องหนึ่งก็คือ เวลาชาวบ้านจัดงานประจำปี มีมหรสพมากมาย นาคก็จะขึ้นมาเที่ยว โดยแปลงร่างเป็นคนธรรมดา ผู้หญิงจะแต่งตัวใส่เสื้อขาว นุ่งผ้าสีคล้ายๆ สีดำ ผู้ชายชอบโพกศีรษะด้วยผ้าแดง ตอนนั้นประมาณ 1 ทุ่มเศษ มีคนมาถามบ้านนางทรง (คนทรงของชาวบ้าน) ให้พาไปจ้างหนังบริการแจ่มจันทร์ภาพยนตร์ ให้แจ่มจันทร์ภาพยนตร์เอาหนังไปฉาย แล้วตกลงราคากันที่สองพันบาท ฉาย 3 ม้วน เลือกเฉพาะหนังผี คนมาจ้างเป็นชายอายุ 50 ปี แต่งตัวนุ่งผ้าจูงกระเบน เหน็บเกี่ยว ใส่เสื้อสีขาวแขนยาว เข็มขัดหนัง หวีผมแต่งตัวดี ทาแป้งข้างขวาด้านเดียว ชายคนนั้นได้นั่งรถกลับมาพร้อมกับรถที่ว่าจ้างหนังมาฉาย เวลาประมาณ 2 ทุ่ม มาถึงบริเวณที่ฉายหนัง คือ เกาะคำชะโนด
คนขับรถบอกว่า ถนนที่รถวิ่งเข้ามาก็เป็นถนนวิ่งลาดยางดีมากๆ ยาวไปตลอดทาง พอมาถึงที่ฉายหนังที่คำชะโนด มีทุ่งหญ้า และก็มีสนามสวยงามมาก ก็เลยไปกลางจอฉายหนังบริเวณใต้สะพานสูง ซึ่งยามหน้าฝน น้ำจะลึกขนาดคอ หรือเอว มีคนมาดูเยอะมาก เต็มสนามเลย ไปถึงตั้งจอหนังเสร็จก็เริ่มฉายเลย คนก็ทยอยเยอะขึ้นมาเรื่อยๆ หนังก็ได้ฉายไปประมาณตี 5 คนที่จ้างหนังมาฉายก็บอกหยุดเถอะ มันใกล้สว่างแล้ว ขณะนั้นหนังยังไม่ทันจบเรื่องที่ 3 เลย คนฉายหนังก็เลยเลิกฉาย แล้วก็เก็บของขึ้นรถ พอเก็บของขึ้นรถเสร็จ หันมาไม่เห็นคนมาดูหนังอีกเลย แม้แต่เพียงคนเดียว ไม่ทราบหายไปไหนกันหมด และหายไปได้รวดเร็วมากขนาดนั้น ตอนที่มีคนมาดูหนังตั้งเยอะ ตอนแรกเป็นสนามหญ้า ตอนนี้มีแต่ต้นตะนา และได้เห็นชายคนจ้างหนังเข้ามาบอกว่า พ่อจะไปส่ง แล้วก็นั่งรถไปด้วยกัน พอขับรถออกมาจากพื้นที่ฉายหนัง แปลกมาก พอเหลียวหลังกลับไปดู ก็มีแต่ก้อนหิน แม้ขับรถไปไกลขนาดไหนก็ตาม หันกลับไปมองด้านหลังก็เป็นสนามหญ้าเหมือนเดิม แต่มีต้นไม้ แต่ดูไปข้างหน้าเป็นถนนลาดยางอย่างดี พอมาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง มองกลับไปด้านหลัง จึงเห็นว่าเป็นถนนลูกรัง ถนนลาดยางหายไปแล้ว เป็นปกติ พอวิ่งไปได้สักพักหนึ่ง ชายที่มาจ้างหนังก็หยิบเงินออกมาให้ 2 มัดๆ ละพัน เป็นแบ๊งค์ใบละ 20 บาท แล้วบอกว่าให้เอาไปทำทานที่วัด อย่าเอาไปใช้ พอนั่งไปด้วยกันอีกสักครู่ เขาก็ขอลงที่ข้างทาง พอเปิดประตูลงจากรถก็หายแว้บไปกับตา เร็วมาก ไม่รู้ว่าไปทางไหน
คำชะโนด สถานที่ศักดิ์สิทธิ ผู้คนมากมายเเห่มาขอโชคลาภ
ปัจจุบัน ป่าคำชะโนด ยังคงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีผู้คนมากมายเเห่มาขอโชคลาภ ขอหวย เลขเด็ด เพื่อเสี่ยงดวง เพราะเป็นสถานที่ ที่มีมนตร์ขลังศักดิ์สิทธิ ด้วยเรื่องเล่าตำนานพญานาค ซึ่งตามตำนานเชื่อกันว่า พญาศรีสุทโธนาคราช ผู้ขุดแม่น้ำโขงใช้ป่าคำชะโนด เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างเมืองบาดาลและโลกมนุษย์ ซึ่งบริเวณดังกล่าวคือ สะพานปูนรูปปั้นพญานาค 2 ตัว 7 เศียร และถ้าสังเกตให้ดี ๆ ตรงกึ่งกลางสะพาน จะเจอกับรอยแยก ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นรอยต่อระหว่างโลกมนุษย์กับบาดาลนั่นเอง ซึ่งปัจจุบันแรงศรัทธาจากทั่วทุกสารทิศที่นับถือวัดคำชะโนดเเห่งนี้ ที่เดินทางไปยังป่าคำชะโนดกันเป็นจำนวนมากจนล้นเกาะกลางน้ำ จึงทำให้คณะกรรมการวัดได้ออกกฎระเบียบ 6 ข้อ ได้แก่
1. ไม่จุดธูปเทียนบูชาในป่าคำชะโนด
2. ให้นำพานบายศรีหรือเครื่องเซ่นไหว้กลับ เพื่อเป็นการลดขยะ
3. ไม่โยนเหรียญลงบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์
4. งดปล่อยปลาและสัตว์น้ำลงไปในแหล่งน้ำ
5. ไม่ผูกผ้าแพร 7 สี
6. ไม่ทาแป้งหรือขัดถูต้นไม้

การเดินทางมาคำชะโนด สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง จังหวัดอุดรธานี
เส้นทางหลวงหมายเลข 22 (อุดรธานี-สกลนคร) ให้ขับตรงไปเรื่อย ๆ เมื่อเข้าสู่เขตพื้นที่บ้านหนองเม็ก หลังจากนั้นให้เลี้ยวซ้ายไปทางอำเภอบ้านดุง เป็นระยะทาง 9 กิโลเมตร ไม่นานก็จะถึงป่าคำชะโนด (ป่าคำชะโนดเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น.)
จังหวัดอุดรธานี
อุดรธานี เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย จังหวัดอุดรธานีเป็นศูนย์ปฏิบัติการกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 และศูนย์กลางพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขง เดิมพื้นที่เมืองอุดรธานีในปัจจุบันคือบ้านเดื่อหมากแข้ง ซึ่งมีมานานร่วมสมัยกับเมืองเวียงจันทน์ อาณาจักรล้านช้าง เมืองอุดรธานีได้รับการสถาปนาให้เป็นเมืองศูนย์บัญชาการการปกครองของมณฑลอุดรอย่างเป็นทางการในสมัยรัชกาลที่ 5 ปี พ.ศ. 2436 โดยพลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ซึ่งทรงเป็นข้าหลวงใหญ่สำเร็จราชการแทนพระองค์ปกครอง มณฑลอุดร ในสมัยที่มีการปกครองในรูปแบบมณฑลเทศาภิบาล กรุงรัตนโกสินทร์ เมืองอุดรธานีเกิดจากรวมกันของหัวเมืองฝ่ายเหนือในพื้นที่มณฑลอุดร คือ เมืองกุมภวาปี เมืองหนองหาน เมืองนครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน(เมืองหนองบัวลำภู) และบ้านเดื่อหมากแข้ง มีอาณาเขตปกครองกว้างใหญ่ที่สุดในประเทศ จังหวัดอุดรธานีอยู่ห่างจากกรุงเทพมหานคร 564 กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ 11,730 ตารางกิโลเมตร (ประมาณ 7,331,438.75 ไร่)
ปัจจุบันอุดรธานีเป็นศูนย์กลางหน่วยงานราชการต่าง ๆ ในภูมิภาค ศูนย์กลางการเดินทางทางบกและทางอากาศของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมทั้งเป็นศูนย์กลางของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง เชื่อมโยงกับประเทศในภูมิภาคอาเซียน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ เที่ยวไทย หากต้องการเล่น คลิก วิเคราะห์บอล
